วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2555

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของเยาวชนไทย : 10 อุปนิสัยที่ไม่ควรแสดงในที่ทำงาน

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของเยาวชนไทย :
.
10 อุปนิสัยที่ไม่ควรแสดงในที่ทำงาน
           คุณ พ่อคุณแม่ผู้ปกครอง ท่านคงจำได้ว่าในการเรียนของเด็กนั้น ทางโรงเรียนมักมีการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่เด็กๆ ควรแสดงออกในทางที่ดี ถ้าเป็นเด็กเล็กระดับชั้นอนุบาล ได้แก่ พัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา หากพฤติกรรมใดที่ทางคุณครูเห็นว่าประพฤติไม่เหมาะสมก็จะมีการตักเตือน หรือแจ้งคุณพ่อคุณแม่ให้ช่วยสอดส่องดูแล ว่ากล่าวตักเตือนด้วยอีกแรงหนึ่ง
        เมื่อเรียนชั้นประถมศึกษาทางโรงเรียนก็จะประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านการพัฒนาจริยธรรม คุณธรรม และค่านิยม สอนให้นักเรียนมีความรัก ความเมตตา เอื้อเฟื้อ เสียสละ และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มีมารยาทงาม น่ารักเรียบร้อย เป็นที่ชื่นชอบแก่ผู้พบเห็น มีระเบียบวินัยต่อตนเอง คุณครูและพ่อแม่ผู้ปกครองมักจะได้พบปะพุดคุยกันเพื่อปรับพฤติกรรมของลูกๆ ทั้งในช่วงชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น
          แต่ เมื่อลูกเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนมักจะเข้มข้นในเรื่องวิชาการ ทำให้บางครั้งละเลยพฤติกรรมการกระทำที่ไม่เหมาะสมบางอย่าง และถ้าพ่อแม่ไม่มีเวลาดูแลไต่ถามลูก การออกนอกลู่นอกทางก็มีโอกาสเสี่ยงมากขึ้น บางครั้งพ่อแม่เข้าใจว่าเด็กโตแล้ว ไม่ต้องการให้จุกจิกจู้จี้ขี้บ่น แต่ถ้าท่านสังเกตให้ดี เด็กสมัยนี้บางครั้งทำผิดโดยไม่รู้ตัวว่ากระทำผิด หรือไม่รู้ว่าคนอื่นเขาเดือดร้อน การสอนการแนะนำ กับการจุกจิกแตกต่างกัน ขอให้ท่านลองทบทวนดูครับ
         ดัง นั้น จึงขอเตือนมายังคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองทั้งหลาย ขอให้ท่านใส่ใจกับบุตรหลานของท่าน เพราะเพื่อนๆ ในช่วงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจะมีอิทธิพลต่อลูกของท่านมากๆ การแสดงออกบางครั้งติดมาจากเพื่อน การพูดจาเสียงดังเอะอะโวยวายเมื่อจับกลุ่มเดินกัน ไม่สนใจคนรอบข้างว่าจะได้รับความรำคาญหรือไม่ การเห็นแก่ตัวไม่ช่วยเหลืองานกลุ่ม สิ่งต่างๆ เหล่านี้ จะติดตัวลูกของท่านไปจนถีงการเรียนในมหาวิทยาลัย และติดตามไปถึงเมื่อลูกต้องเข้าทำงาน ซึ่งจะแก้ไขปรับเปลี่ยนได้ยากมากจึงนำเสนอคุณลักษณะอันไม่พึงประสงค์ในการทำงาน ให้คุณพ่อคุณแม่ได้ทราบเพื่อที่ท่านจะได้ช่วยแนะนำลูกๆ ตั้งแต่วัยรุ่นก่อนที่จะสายเกินแก้คะ
10 อุปนิสัยที่ไม่ควรแสดงในที่ทำงาน (จาก mcot.net)
ถ้า คุณไม่อยากกลายเป็นคนน่ารำคาญ ในสายตาเพื่อนร่วมงานหรือแย่หน่อยก็ของเจ้านาย และถ้าคุณไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาที่ใครๆ ก็แอบหัวเราะเยาะทุกครั้งที่คุณเดินผ่าน ทั้งๆ ที่คุณก็ไม่ได้ทำตัวเลวร้ายอะไรนี่นา งั้น! ลองหันมามองตัวเองอีกครั้งสิว่า ตัวคุณเองมีนิสัยแบบนี้หรือเปล่า
1.จะพูดจาปราศัยกับใคร...คุณระมัดระวังแค่ไหน
บาง ครั้งคนเราก็มีหลุดคำพูดที่ไม่เหมาะไม่ควร เวลาคุยกับคนอื่นบ้าง แต่สำหรับคุณ มันเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหนถ้าเกิดขึ้นแทบทุกครั้งก็ไม่ใช่หลุดแล้ว คุณต้องกลับมา พิจารณาตัวเองดูว่า คุณเป็นคนปากเสียที่ชอบพูดจาไม่เข้าหูใครใช่ไหม เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง เรามักได้ยินคำไม่สุภาพบ่อยๆจากวัยรุ่น ติดมาถึงวัยทำงาน
2. นินทาแหลก
อัน นี้ก็รู้ๆ กันอยู่ว่า คงห้ามไม่ได้ แต่ถ้านินทาคนอื่น จนเสียหายหลายแสนเรื่อง ไม่ต้องถึงหูคนที่คุณนินทาหรอกคน ที่คุณกำลังเม้าท์แตกให้ฟังนั่นแหละ เค้าจะรังเกียจจนกระทั่งเอาไปพูดให้คนอื่นรู้กันทั่วทีนี้ใครอยากจะคบกับคุณ ก็แปลกหล่ะ
3. ชอบลืมกระเป๋าสตางค์
อะไร จะขี้ลืมขนาดนั้นนะ ตอนลงไปกินข้าวด้วยกันก็ลืมกระเป๋าสตางค์ ตอนได้แจกซองผ้าป่าก็ลืม เวลาที่เพื่อนจะขอยืมเงินบ้างก็ลืมอีก ที่สำคัญเวลายืมเงินคนอื่นแล้วก็ยังชอบลืมคืน นิสัยแบบนี้ไม่ดีอย่าทำล่ะ
4. ประจบประแจง เลียแข้งเลียขา
นิสัย แบบนี้สังเกตตัวเองได้จาก คุณชอบจับผิดเพื่อนร่วมงานแล้วเอาไปเล่าให้เจ้านายฟังหรือเปล่าหรือบางทีก็ แกล้งพูดขึ้นมาเสียงดังให้เจ้านายได้ยินเมื่อใครมาทำงานสายประมาณว่า อ้าว! รถติดเหรอจ๊ะเธอ แหมแต่ฉันโชคดี รีบออกมา เลยมาถึงตั้งแต่ 7 โมงเช้า
นอก เหนือจากนั้นก็คือ รอกินข้าวพร้อมเจ้านายทุกวันไม่ว่าเขาจะชอบกินกับคุณหรือไม่ และรีบกุลีกุจอเข้าไปช่วยถือของทุกครั้งที่เจ้านายมาถึงทั้งที่มีแฟ้มบางๆ แค่อันเดียว แสดงออกนอกหน้านอกตาไปหน่อย รับรองได้ว่าคุณจะกลายเป็นเพื่อนร่วมงานที่ใครๆ ต่างรังเกียจเข้าไส้ แต่จะได้ดิบได้ดีหรือเปล่าไม่ขอยืนยัน
5. ขาด ลา มาสาย บ่อยๆ เกินหน้าเกินตาคนอื่น
ด้วย เหตุผลสารพัด ไม่ว่าจะเป็นรถติด รถเสีย หรือว่าท้องเสีย ไม่สบาย มีธุระกระทันหัน ถ้านานๆ ทีก็คงไม่มีอะไรเสียหายหรอก แต่สายบ่อยๆใครจะเชื่อคุณล่ะ
6. เจ้าอารมณ์ หรือเอาแต่ใจตัวเอง
อัน นี้เป็นพื้นฐานส่วนตัว คุณอาจต้องใช้เวลารักษาหน่อยแต่หากคุณดื้อดึง หรือไม่สนใจกับนิสัยตรงนี้ของคุณ ก็ขอบอกว่าเกิดผลเสียกับตัวคุณเต็มๆ และจะมีหลายคนได้รับผลกระทบอันนั้นแน่นอนเพื่อนร่วมงานก็คงเข้าหน้าไม่ติด และยิ่งถ้าคุณเป็นเจ้าคนนายคนด้วยแล้ว ลูกน้องก็คงไม่ค่อยชอบหน้าคุณเท่าไหร่นัก
7. ชอบเอาปัญหาส่วนตัวมาเที่ยวปรึกษาให้เพื่อนร่วมงานฟัง
เรื่อง นี้ดูเหมือนไม่น่าจะมีปัญหา แต่ถ้าคุณทำบ่อยๆ นอกจากจะเสียงานเสียการได้แล้ว คนอื่นก็คงไม่ค่อยอยากคุยกับคุณเท่าไหร่นัก ต้องแบ่งแยกให้ดีระหว่างเรื่องส่วนตัวกับงาน
8. แอบเอางานนอกมาทำ
ก็ ประมาณว่ารับจ็อบกระหน่ำซัมเมอร์เซลส์ แล้วเผอิญเดดไลน์คุณต้องส่งให้ทันก็เลยหอบมาทำที่ทำงาน ใช้คอมพิวเตอร์ เครื่องซีร๊อกซ์ กับปริ๊นเตอร์ที่ทำงานเสร็จสรรพ ของอย่างนี้ไม่มีคำอธิบายนอกจากจะบอกว่ามันไม่เหมาะไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง
9. ชอบทำเหมือนกับตัวเองเหนือกว่าคนอื่น
ชอบ ดูถูกผู้อื่นเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรคุณเป็นต้องดีเด่นกว่า และวาจาของคุณช่างน่าหมั่นไส้ ดูเหมือนว่าใครๆ ก็ดีได้ไม่เท่าคุณ แม้ว่าคุณจะมาจากตระกูลที่ดีขนาดไหน จบจากสถาบันที่ชื่อเสียงโด่งดังจากแห่งใด แต่ถ้าไม่เรียนรู้ที่จะเข้ากับคนอื่นได้ คุณก็ยังเป็นแค่คนที่ยังหลงอยู่ในยุคนางทาสนั่นแหละ
10. แข็ง ไม่ยอมใคร
ถ้า คุณมีนิสัยแบบนี้แล้วไม่สามารถปรับปรุงแก้ไขได้ล่ะก็ คุณอาจจะเป็นผู้เปลี่ยนงานบ่อยๆได้บางครั้งคุณก็ต้องปล่อยวางสิ่งบางอย่าง ให้มันผ่านพ้นไปบ้าง แล้วให้กาลเวลาเป็นผู้ตัดสินว่าสิ่งที่คุณคิดนั้นถูกต้อง
ครบ 10ข้อแล้ว มีข้อไหนที่สะดุดใจบ้างไหมว่า ช่างเหมือนตัวคุณเสียเหลือเกิน แต่ถ้ายังมองไม่เห็นอยู่ล่ะก็ คุณก็คงจะเกินเยียวยาแล้วล่ะ หากอยากทำงานด้วยความสุขสบายใจทั้งตัวคุณเองและเพื่อนร่วมงานต้องมองหาข้อ บกพร่องของตัวเองและหาทางแก้ไขแล้วล่ะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก อสมท.